รังสี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวที่ทำให้ผู้คนถึงกับช็อกไปตามๆกันเมื่อพบว่าไอโซโถปกัมมันตภาพรังสีธาตุอย่างซีเซียม 137 หายไปจากบริเวณพื้นที่จัดเก็บ และยังไม่สามารถตามหาได้พบ ตอนนี้อาจจะตามหาพบแล้วก็จริง แต่การจัดการก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ เพราะยังไม่มีการจัดการที่ดีพอ รวมไปถึงการเฝ้าระวังกลุ่มผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบด้วย ค่ารังสีเหล่านี้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลอันตรายต่อร่างกายของเราได้แล้ว
หากได้รับในปริมาณมากก็อาจจะล้มหายตายจากไปในระยะเวลาไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน แถมยังเป็นรูปแบบการเสียชีวิตที่ต้องทุกข์ทนทรมานอย่างแสนสาหัสอีกด้วย หากได้รับในปริมาณน้อย แต่สะสมเป็นเวลานานก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง รวมไปถึงโรคไทรอยด์ ที่สำคัญ ซีเซียม 137 ที่หายไปนั้นยังมีค่าครึ่งชีวิตถึง 30 ปีอีกต่างหาก มันสามารถปล่อยรังสีทั้งแกมม่า และเบต้าที่สูงพอสมควรเราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกัมมันตภาพ รังสี ดังกล่าวกัน ว่ามันอันตรายแค่ไหน และเป็นอย่างไร
ต้องบอกก่อนว่าปริมาณของรังสีที่กระจายมาจากซีเซียม 137 ในระยะเวลาอันสั้นมักจะไม่สามารถส่งผลกระทบที่อันตราย หรือร้ายแรงที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนในทันที ดังนั้น มันจึงไม่เหมือนกับโคบอลต์ 60 ที่เคยหายไปในปี 2543 แต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นจะบอกให้ทุกคนสบายใจได้ ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะขึ้นชื่อว่ากัมมันตภาพรังสี ล้วนแล้วแต่มีอันตรายทั้งสิ้น เพียงแต่เราไม่ต้องตื่นตกใจจนเกินไป เพราะความจริงแล้วสารกัมมันตภาพรังสีนั้นก็อยู่ในชีวิตประจำวันของเราเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้หากเทียบกันระหว่างโคบอลต์ 60 แล้วซีเซียมดูเหมือนจะปลอดภัยกว่ากันเยอะ เพราะตอนนี้ก็ยังไม่มีการออกมารายงานผู้ที่เสียชีวิตจากสารกัมมันตภาพรังสีซีเซียมแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่อันตรายเสียทีเดียว เพราะหากเราได้รับในปริมาณที่น้อยติดต่อกันเป็นเวลานานก็เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้หากได้รับในปริมาณที่สูงโดยตรงก็จะทำให้ผิวหนังเกิดอาการแสบร้อน ผิวจะกลายเป็นผื่นแดง และเป็นแผลเหวอะหวะเหมือนโดนไฟไหม้
นอกจากนี้ยังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตามมาอีกด้วยหากได้รับในปริมาณที่สูงอย่างมาก ลักษณะภายนอกที่จะคล้ายผงเกลือสีขาว ยังสามารถกระจายไปตามอากาศได้ และเปื้อนได้ง่ายหากแคปซูลที่ห่อหุ้มเอาไว้แตก คนที่อยู่ใกล้เคียงอาจจะได้รับสารดังกล่าวผ่านทางผิวหนังจนทำให้มีบาดแผล หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ หากรับประทานเข้าไป ก็จะสะสมอยู่ภายในเนื้อเยื่ออ่อนของอวัยวะทั้งหลาย และแผ่รังสีใส่อวัยวะเหล่านั้น จนกลายเป็นมะเร็งตามมาในภายหลัง
และสิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือการจัดการของหน่วยงานภาครัฐ การที่ไม่มีการป้องกันดีพอ โดยเฉพาะภาพข่าว ที่มีหน่วยงานปิดพื้นที่ปนเปื้อนเอาไว้ด้วยตาข่ายเท่านั้น หลายคนจึงเป็นกังวลว่าสารกัมมันตภาพรังสีจากซีเซียม 137 จะมีการปนเปื้อน หรือหลุดลอดออกมาหรือไม่ เพราะคนในยุคปัจจุบันสามารถหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการจะทราบได้อย่างง่ายดายผ่านปลายนิ้ว หลายคนทราบกันดีถึงวิธีการจัดการเกี่ยวกับสารกัมมันตภาพรังสีที่มีหารหลุดรั่วในต่างประเทศ
อย่างเช่นในเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหว เหตุการณ์ภัยพิบัติเชอร์โนบิล ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะไม่ได้รุนแรง แต่ก็ยังเป็นอันตราย หลายคนจึงคาดหวังว่าจะมีการจัดการที่ดี พอภาพข่าวถูกนำเสนอออกไป มันจึงทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจ และเป็นกังวล หากคุณสงสัยว่าตนเองได้รับผลกระทบการกัมมันตภาพรังสีในครั้งนี้หรือไม่ สามารถสังเกตได้จากอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ
โดยสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากคุณได้รับสารกัมมันตภาพรังสีเข้าไปก็คือจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ร่างกายขาดน้ำรู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา หากไปสัมผัสโดนกับรังสีบริเวณที่สัมผัสก็จะมีอาการอักเสบ ผิวแดง ผิวไหม้ ผิวหนังหลุดลอก เป็นแผลขนาดใหญ่ และอาจทำให้ผิวหนังตายได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีอาการปากเปื่อย เส้นผม และขนตามร่างกายหลุดร่วง หากไขกระดูกถูกกดก็จะทำให้ติดเชื้อแทรกซ้อนเป็นไข้ เลือดออกได้ง่าย
หากอาการหนักก็จะมีความรู้สึกสับสน เซื่องซึม ชัก โคม่า และถึงแก่ชีวิตในที่สุด หากคุณไม่ได้มีอาการอะไรก็หมายความว่ายังปลอดภัยดีแต่หากไม่มั่นใจ และมีช่วงเวลาที่ได้ไปใกล้ชิดกับวัตถุปนเปื้อน รวมไปถึงคนที่มีสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อน จะลองไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อความมั่นใจก็ได้เช่นเดียวกัน วิธีการปฏิบัติหากคุณไปสัมผัสเข้ากับสารกัมมันตภาพรังสีก็คือ ให้ลดการปนเปื้อนด้วยการล้างดวงตา โดยให้น้ำไหลผ่านจากหัวตาไปยังหางตาด้วยน้ำสะอาดล้างมือ อาบน้ำสระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าในทันที
นำเอาเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนใส่ถุงปิดสนิท และนำเอาไปตรวจสอบว่าปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีหรือไม่หลังจากนั้นให้ลงทะเบียนตามหน่วยงานที่กำหนด เพื่อทำทะเบียนผู้สัมผัสและอยู่ในเหตุการณ์ เพื่อต้องระวังผลกระทบต่อร่างกาย และรวมไปถึงต้องควบคุมสารกัมมันตภาพรังสี นอกจากนี้ยังห้ามจับวัตถุทุกชนิดโดยเด็ดขาดห้ามรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่ม ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามสัมผัสในบริเวณที่เจ้าหน้าที่กำหนดว่าเป็นพื้นที่ที่อันตรายอย่างไรก็ตามตอนนี้เราก็สามารถสบายใจขึ้นมาได้บ้างแล้วหลังจากที่มีการตรวจพบชิ้นส่วนวัตถุของซีเซียม 137 เป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของผลกระทบระยะยาวก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป
นานาสาระ: เทสลา เหตุผลที่หลายๆคนยกให้เทสลาเป็นเทพเจ้าทางวิทยาศาสตร์